หยิบหย่ง หรือ ยังแสวงหา

หยิบหย่ง หยิบโหย่ง

 ว. กรีดกราย ทำอะไรไม่จริงจัง ไม่เอาการเอางาน ไม่ทะมัดทะแมง เช่น ท่าทางหยิบโหย่งอย่างนี้ จะไปทำมาหากินอะไรได้. ความหมายจาก พจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน

------------------------------

 ในการเรียนรู้ สิ่งหนึ่ง แบบ ครึ่งๆกลางๆแบบไม่สุดโต่ง

..แล้วเบนความคิดไป สนใจในสิ่งอื่นๆต่อ...หยิบหย่ง  หรือ ยังแสวงหาต่อ

"คนสมัยนี้ มัก ทำอะไร หยิบหย่ง จึงไม่ประสบความสำเร็จ"

ในความรู้สึก จริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง..

เข้าข้างตัวเอง :

เหตุหนึ่ง อาจเพราะ เมื่อรู้ตัวเอง ว่าไม่ใช่ และ ไม่อยากจมปลัก เสียเวลา กับสิ่งนั้น

เพื่อไม่ให้ เสียเวลาชีวิต มากนัก

-------------------------------------

เกือบ สองปีที่ผ่านมา สิ่งต่างๆ ที่มากระทบจิตใจ ในด้านลบ มีมาก

ทุกเรื่อง ที่เข้ามาในชีวิต ล้วนเป็นด้านลบ

ดูจาก การโพสต์ เฟสบุ๊คย้อนหลัง

มีแต่ความเวิ่นเว้อ ผิดหวัง โดนเอาเปรียบ เบียดเบียน

สมอง ไม่มี สมาธิ..จิตไม่ว่าง ไม่ปล่อยวาง...............

ศึกษาเรื่องใด ก็ ล้มเหลว  ไม่ตั้งใจ

หยิบหย่ง

-------------------------------------------

เมื่อมาถึง จุดหนึ่ง ที่อิ่มตัว

รู้สึกว่า..เราสร้างความเคยชิน  ดราม่า  ไปซะแล้ว

เป็นการ เสพติดอย่างหนึ่ง

ในสมอง มีแต่ ประจุลบ และ เบต้า* มากมาย

ถึง กาล ที่จะเพิ่ม อัลฟ่า* ให้สมองบ้าง

ก่อนที่ ชีวิต จะ ดาร์ค ลงไปกว่านี้

--------------------------------------------------

ในแง่วิทยาศาสตร์ จะมีการวัดคลื่นสมองเปรียบเทียบ ระหว่างการนอนหลับ
และการทำสมาธิ   แต่ก่อนที่จะมีการวัดคลื่นสมอง  มาทำความเข้าใจ
เรื่องคลื่นสมองกันก่อนสักเล็กน้อย  ดังนี้  


คลื่นสมองของคนเราจะอยู่ในรูปของความถี่แบบผสม  ปกติจะมีอยู่ 4 คลื่น

ด้วยกัน คือ คลื่นเบต้า (Beta wave), คลื่นอัลฟา (Alpha wave), 
คลื่นธีต้า (Theta wave) และคลื่น เดลต้า (Delta wave)  ซึ่งคลื่น
เหล่านี้มีการทำงานที่แตกต่างกัน


1.  คลื่นเบต้า (Beta wave)

เป็นคลื่นสมองที่เกิดขึ้นในสภาวะปกติทั่วไป ในสภาวะปกติสมองจะรับ
ข้อมูลต่าง ๆ จากภายนอกเป็นจำนวนมาก จนถึงก่อให้เกิดความสับสน 
วุ่นวาย คลื่นสมองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จะมีความถี่สูง เรียกคลื่นสมอง
ช่วงนี้ว่า "คลื่นเบต้า" (Beta Wave)  ซึ่งมีความถี่ประมาณ 13-40 รอบ
ต่อวินาที ยิ่งความถี่ของคลื่นสมองสูงขึ้นไปมากเท่าไร จิตใจของเราก็
จะวุ่นวายสับสนมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น รูปร่างของคลื่นเบต้ามีลักษณะคล้าย
เส้นกราฟที่ขยุกขยิกขึ้น-ลง ขึ้น-ลง สลับกัน คล้าย ๆ เวลาเราลากเส้น
สลับฟันปลานั่นเอง 

ถ้าสมองมีเรื่องต้องคิดวุ่นวายมาก เส้นกราฟจะขยุกขยิกมากด้วย ภาวะ
เช่นนี้จะรู้สึกหงุดหงิด กระสับกระส่าย ประสิทธิภาพในการคิดตัดสินใจไม่ดี 
ยิ่งคลื่นสมองยิ่งสูง ยิ่งทำให้เกิดอารมณ์ด้านลบได้มากเท่านั้น คนที่ไม่ฝึก
สมาธิ จะมีคลื่นสมองเบต้า (Beta wave) มากกว่าคนที่ฝึกสมาธิ

2.  คลื่นอัลฟา (Alpha wave)

เป็นคลื่นสมองที่เกิดขึ้นในสภาวะของคนที่มีจิตใจสงบเยือกเย็น เรียกว่า 
"คลื่นอัลฟา" (Alpha Wave) ซึ่งมีความถี่ประมาณ 8-13 รอบต่อวินาที 
มีจังหวะที่ช้ากว่า มีขนาดใหญ่กว่าและมีพลังงานมากกว่าคลื่นเบต้า 
(Beta wave)  รูปร่างของคลื่นอัลฟามีลักษณะคล้ายรูปลูกคลื่น ไม่ขยุกขยิก
เหมือนคลื่นเบต้า คลื่นอัลฟานี้ช่วยทำให้ความสับสนวุ่นวายในสมองลดลง 
จิตใจจึงสงบและเยือกเย็นขึ้น ซึ่งพร้อมทีจะทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมี
ประสิทธิภาพ

และอื่นๆ อ่านได้ที่ลิงค์นี้

http://www.oknation.net/blog/surasakc/2009/05/17/entry-1

--------------------------

อยากมีสมาธิ  ก็ต้องมี สิ่งยึดเหนี่ยว จิตใจ

สิ่งใดล่ะ ที่จรรโลง ได้

ธรรมะ เป็นสิ่งหนึ่ง

บทความ ของ ผู้ที่เราเคารพนับถือ ส่วนหนึ่ง

คลิปบทสนทนา ของ ไอดอล

วัตถุ  อัญมณี  ( พรีไนท์ )

ปัญหา หยิบหย่ง จะ หมดไป

การแสวงหา  ก็จะเกิดขึ้น

--------------------------------

ขอบคุณ

พี่ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย   https://www.youtube.com/watch?v=I1NnltXr-FQ

พระชยสาโร    https://www.youtube.com/watch?v=v_UNrFDBnZM

อาจารย์ (พี่)พัชร  www.ipattt.com/about/

อาจารย์(พี่) เม่น www.imenn.com

หินอัญมณี  มุคตา    https://www.facebook.com/olantravellove?fref=ts

----------------------

ปริช

เรียนรู้อะไร .. ในวัย 35 (ปี 2015)

ย้อนกลับไป เมื่อวัยเด็ก เราเรียนรู้ เรื่องประวัติศาสตร์  รวมทั้ง วิวัฒนาการ ของโลก

ไม่เคย เข้าใจอะไรได้อย่างถ่องแท้...

เพียงแค่ รู้ ตามๆ กันมา อย่างนั้น

คนเก่งที่คิดค้น ประดืษฐ์ สิ่งต่างๆ ได้อย่าง น่าทึ่ง..

เรารู้ว่า เขาทำอะไร  ..แต่ ไม่รู้ที่มาที่ไป และ วิธีคิดของเขา

ยกย่อง พวกเขา ว่าฉลาดมาก ไอคิวเกิน มนุษย์..

จริงเหรอ....

------------------------------------

เวลาที่เราเห็น คนที่ ค้นพบ ในสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้ตั้งแต่ ยังเด็ก

มันเป็นอะไร ที่อิจฉา นะ

การที่ รู้ว่า ตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร 

....มันจะทำให้ เรา เจอความสุข ไง และ พร้อมที่จะหมกมุ่น กับมัน ได้ทั้งชีวิต

--------

----------------

สมัยเรียน ชั้นประถม ครูมักถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร

สมองตอนนั้น...ตอบครูไป ด้วยความเท่าที่รู้  ไม่ให้ตอบผิด เดี่ยวครูตี

คำพูดเรื่อยเปื่อย ไม่มีสาระ ในความคิด 

....บอกได้เพียง สิ่งที่เห็นใน ทีวี...และ ผู้ใหญ่ที่เราเจอ อาชีพที่พอรู้จัก

ในสมองเด็ก..ไม่เข้าใจว่า การอยากเป็น คืออะไร 

ไม่รู้หรอกว่า  อาชีพที่ต้องทำนั้น ได้เงิน มาเลี้ยงดู ตัวเอง และ ครอบครัว

-----------------

สมัยก่อน ผู้ใหญ่ ตีค่าความคิด และ ความสามารถ ของเด็ก ๆ ต่ำ

ใช้คำพูดที่ว่า..เด็กๆ ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก...หรือ ไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมาก  แก่แดด เกินวัย

เพราะ ไม่เชื่อว่า ความอัจฉริยะ จะมีจริง

โชคไม่ดี ที่เกิดยุคเก่า... สมัยอนาล็อค

ผู้ใหญ่ หัวโบราณ...และ เทคโนโลยี ก็ไม่ได้เจริญ มากมาย

พ่อแม่ ก็เลี้ยงตาม กระแสสังคม ที่เป็นไป ในตอนนั้น

ทุกสิ่ง ถูกปิดกั้น จาก ความเชื่อต่อๆ กันมา ว่า...เรียนไป ก็ตกงาน เลี้ยงตัวไม่รอด

-------------

ความสับสน ในชีวิต วัยรุ่น ก็เกิดขึ้น..เพราะ ไม่สามารถ ทำในสิ่งที่อยาก หรือ ชอบ หรือ สนุกกับมันได้

ลองผิด ลองถูก..ใช้ชีวิตข้ามผ่าน หลายๆเรื่อง มาแบบ ไม่จดจำ และ ไม่มีความประทับใจอะไร

มึน งงๆ.....และ ผ่านมันมา  โดย ไม่ได้ใช้ความกล้าหาญ  กล้าแสดงออก  และ ไปแตะขอบฟ้า ถึงฝัน

อย่างสมัยนี้

-------------------------

เรา ไม่ได้โทษ การเลี้ยงดู สถาบันครอบครัว  รัฐบาล หรือ สังคม

แต่ถ้ามองกันในแง่ ความเป็นจริง  แบบเอาใจเป็นกลาง  เอาทิฐิ ออกไปวางซะไกลๆ ก่อน

ปัญหา มันก็ อยู่ที่ตรงนั้น น่ะแหล่ะ....ใช่มั๊ย

----------------------------

ในยุค ดิจิตอล....ทุกอย่าง ไปเร็ว มาเร็ว...การสื่อสาร เชื่อมต่อถึงกันได้หมด ไร้พรมแดน

เด็กสมัยนี้  เกิดเร็วโตเร็ว  แข่งขัน กัน ในทุกอาชีพ..

และความต้องการ แบบด่วนๆ ทันใจ. 

.สรรหา.ทางลัด  ทุกวิธี   เพื่อให้  สบายที่สุด  รวยเร็วที่สุด....

อายุน้อย ร้อยล้าน เป็นที่ปรารถนา.....หนังสือ How to ทั้งหลาย การเล่นหุ้น การประกวดเวทีต่างๆ

ทำให้ ไม่มีใครอยาก ทำงานหนัก อดทนไม่พอ กับการเป็นลูกจ้าง

ทุกอย่าง คือ อิสระ...........

---------------------------------------

ทุกสิ่ง  มาไว  และ ไปไว.............เพื่อให้ทันใจ ทันโลก....

มุมมองชีวิต เปลี่ยนไป...

เทคโนโลยี และ คอมพิวเตอร์ ครอบงำ และ  กำลังทำให้ มนุษย์ เป็นขยะ หรือไม่....

---------------------------------

หัวโต แขนขา ลีบ...พุงโล...........คือ วิวัฒนาการ ในอนาคต...

หรือ แท้ที่จริง  เอเลี่ยน... ( ที่ว่ามาจากนอกโลก )  คือมนุษย์เราเอง นั่นแหล่ะ ที่วิวัฒนาการ

ใคร จะ รู้

--------------ปริช  ดราม่า

เครดิต ภาพจาก :

http://www.neutron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=2481&Itemid=4